เกิดจากเชื้อ Hemobartonella feris ซึ่งปัจจุบันเรียกว่า Mycoplasma haemofelis เดิมเข้าใจว่าเป็นกลุ่มริกเก็ตเซียปัจจุบันถูกจัดเป็นเชื้อแบคทีเรีย เชื้อจะเกาะอยู่บนผิวของเม็ดเลือดแดงที่โตเต็มวัย เมื่อระบบภูมิต้านทานของร่างกายตรวจพบเชื้อนี้ จะมีการทำลายเซลล์เม็ดเลือดแดงที่ติดเชื้อนี้ที่ม้าม การติดต่อของเชื้อเกิดได้จากการได้รับการถ่ายเลือดที่มีเชื้อ การถ่ายทอดจากแม่สู่ลูกขณะอยู่ในครรภ์ หรือผ่ายแมลงดูดเลือดที่เป็นภาหะซึ่งคาดว่ายุงและหมัดจะเป็นพาหะของเชื้อนี้ มักพบเชื้อนี้ในแมวที่ไม่แสดงอาการป่วย จึงมีการสันนิษฐานว่าโรคนี้อาจเป็นโรคแทรกซ้อน หลังจากเกิดโรคที่ทำให้เกิดความเครียด ถ้าไม่ทำการรักษาโรคนี้มีอัตราการเสียชีวิต 30%
*** ภาพประกอบจากหนังสือ โลหิตวิทยาทางสัตวแพทย์ สพ.ญ.ดร.เฉลียว ศาลากิจ
อาการ
- ซึมและเบื่ออาหาร
- เยื่อเมือกซีด หรือเหลือง
- หายใจเร็วหรือหอบ
- คลำท้องพบม้มขยายใหญ่
การวินิจฉัย
ทำการตรวจเลือด
- CBC : ดูค่า PCV, RBC และ Hb ซึ่งมักจะต่ำกว่าปกติ และตรวจพบเชื้อ Hemobartonella feris อยู่บนผิวเม็ดเลือดแดง
- Reticulocyte count : จะพบค่าเพิ่มขึ้นหลังจากมีการทำลายเม็ดเลือดแดง ซึ่งใช้เวลาประมาณ 4-6 วัน
การรักษา
- ในแมวที่โลหิตจาง ไม่ควรทำให้แมวเครียด ควรให้อยู่ในที่สงบ
- ให้เลือดแก่แมวที่ PCV ต่ำกว่า 15%
- ให้ยากลุ่ม Tetracyclines เช่น Vibravet (ยาฆ่าเชื้อแบบก้างปลา) และยากลุ่ม Fluoroquinolone เช่น Marbocyl ติดต่อกัน 28 วัน
- ให้ Prednisolone เพื่อป้องกันเม็ดเลือดแดงแตก และช่วยกระตุ้นการทำงานไขกระดูก และกระตุ้นความอยากอาหาร
- ให้ Glucose เข้าเส้นเลือดในแมวที่สุขภาพทรุดโทรมเพื่อป้องกันภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
- ให้สารอาหารบำรุงร่างกาย
การติดตามผล
- ควรตรวจเลือดเช็ค PCV วันเว้นวัน หลังจากเริ่มทำการรักษา